นวัตกรรมใหม่รักษาข้อเข่าเสื่อม ปลูกกระดูกอ่อนจากสเต็มเซลล์เลือดผ่านกล้อง

ปัจจุบันกลุ่มผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมีอายุน้อยลงและมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้ป่วยจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาปีหนึ่ง ๆ เป็นจำนวนมาก ล่าสุดได้มีการพัฒนานวัตกรรมใหม่ขึ้นมารองรับ นั่นคือ การปลูกถ่ายกระดูกอ่อนจากสเต็มเซลล์เลือดโดยการผ่าตัดผ่านกล้องวีดิทัศน์ ที่ถือว่าเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยอย่างมหาศาล เพราะนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นตามธรรมชาติ

  7_1_ff971b33f489277

โดย พ.ต.อ.นพ.ธนา ธุระเจน นายแพทย์ สัญญาบัตร 5 (สบ 5) กลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึงการพัฒนานวัตกรรมของเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ (Stem Cell ) จากเลือดเพื่อการปลูกถ่ายกระดูกอ่อนผ่านกล้องวีดิทัศน์ว่า โรงพยาบาลตำรวจได้ทำโครงการวิจัยพัฒนาการรักษาโรคกระดูกอ่อนของข้อเข่าที่มีการบาดเจ็บและข้อเสื่อมระยะต้นมาตั้งแต่ปี 2554 โดยได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มูลนิธิเวชดุสิต Thai Stem Life Co.Ltd TRB chermedica Co.Ltd และ พล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ เนื่องจากก่อนหน้านี้การรักษามีค่าใช้จ่ายสูงและมีข้อจำกัดหลายประการ จึงได้คิดค้นโดยการ ใช้เลือดของผู้ป่วยเอง โดยไม่ต้องเจาะจากไขกระดูกเชิงกรานที่สร้างความเจ็บปวด อีกทั้งยังได้จำนวนที่ไม่เพียงพอ และสามารถนำมาปลูกถ่ายกระดูกอ่อนผ่านกล้องวีดิทัศน์ได้ในครั้งเดียวเป็นแห่งแรกของประเทศไทย

ปกติแล้วกระดูกอ่อนของเรามีปัญหา คือเวลาเสื่อมแล้วต้องรอวันเสียอย่างเดียว ส่วนมากพบในนักกีฬาและผู้ที่นั่งงอเข่านาน ๆ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีการพยายามปลูกกระดูกอ่อนเพื่อนำมาทดแทน แต่ไม่ได้ผลเป็นแค่พังผืดธรรมดาใช้ได้ในระยะสั้น ๆ แต่ปัญหาจริง ๆ คือปัจจุบันมีประชากรกว่า 1 ล้านคน ที่อายุมากกว่า 60 ปี ต้องรักษาใช้งบประมาณของประเทศปีละกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ป่วยสูงอายุกว่า 10,000 ราย ต้องทำข้อเทียม และ 1 ใน 3 ที่รับการผ่าตัดมีอายุน้อยกว่า 60 ปี ซึ่งข้อเทียม คือเหล็กและไททาเนียมมีอายุใช้งานได้แค่ 10 ปี นั่นหมายความว่าเมื่อผู้ที่เป็นข้อเสื่อมและรับการผ่าตัดใส่ข้อเทียมไปแล้ว เมื่ออายุ 70 ปีก็ต้องกลับมาทำใหม่ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายที่สูญเสียไปถึง 3 เท่า จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนานวัตกรรมของเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือดเพื่อปลูกถ่ายไขกระดูกขึ้นมา โดยได้รับการอนุมัติจากแพทยสภา และได้ทดลองกับผู้ป่วยไปแล้ว 20 ราย เป็นระยะเวลา 1 ปี จากการสำรวจพบว่าผู้ป่วยทั้งหมดไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ แถมยังสามารถกลับไปเดินได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง

7_1_4d4bbfe5d6dd98e

เทคโนโลยีที่เราพัฒนาในเมืองไทย คือการนำสารการเจริญเติบโตจากเลือดตามธรรมชาติด้วยเทคนิคการปั่นพิเศษออกมา ประกอบกับการใช้เทคนิคการผ่าตัดผ่านกล้องเพียงครั้งเดียว จากในอดีตเราใช้วิธีผ่าตัดปลูกกระดูกอ่อน 2 ครั้ง คือการผ่าเข้าไปเก็บเซลล์และผ่าเข้าไปปลูกเซลล์ ทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย และต้องนอนโรงพยาบาลหลายครั้ง แต่งานวิจัยของเราทำแค่ครั้งเดียว คือการใช้เข็มเจาะเลือดที่แขนผู้ป่วยประมาณ 1,000-2,000 ซีซี นำเข้าเครื่องกรองเพื่อปั่นเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากเลือด ซึ่งเครื่องนี้นำเข้าจากประเทศเยอรมนี จากนั้นให้เลือดวนกลับเข้าร่างกายเหมือนเดิมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เท่ากับว่าเราไม่ต้องสูญเสียเลือดและไม่ต้องเจ็บตัวจากการเจาะไขกระดูก

เมื่อได้สเต็มเซลล์จากเลือดแล้วทำการส่องกล้องเข้าไปที่ข้อเข่าผู้ป่วยเพื่อตรวจสอบและใช้เครื่องมือขนาดเล็กประมาณ 3 มิลลิเมตร สอดเข้าไปเพื่อนำกระดูกอ่อนเก่าที่เสื่อมออก จากนั้นเจาะรูที่บริเวณดังกล่าวประมาณ 3-5 รู และสร้างขอบให้ยึดเกาะได้ แล้วฉีดสเต็มเซลล์เลือดของคนไข้ตามรูที่เจาะไว้เพื่อเข้าไปเกาะ พร้อมกับสารอาหารเจริญเติบโตที่เราเตรียมไว้ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 นาที เมื่อปลูกถ่ายเสร็จแล้วใช้เวลาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ กระดูกอ่อนก็จะเริ่มเติบโตจนคนไข้สามารถเดินได้เองโดยไม่ต้องใช้ไม้เท้า แต่ถ้าจะเล่นกีฬาต้องรออีกประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้เมื่อกระดูกอ่อนโตจนสามารถเลี้ยงตัวเองได้จะมีความหนาประมาณ 4-5 มิลลิ เมตร จากขนาดปกติจะมีความหนาประมาณ 6-8 มิลลิเมตร แต่ถ้าสามารถใช้งานได้ประมาณ 10 ปีก็คุ้มแล้ว นอกจากนี้แผลผ่าตัดก็เล็กนิดเดียวประมาณ 1 เซนติเมตร และหลังจากปลูกถ่ายไปแล้วได้มีการวิเคราะห์โดยการตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจสอบพบว่าเป็นกระดูกอ่อนที่มีเซลล์งอกขึ้นมาจริงจึงถือเป็นความสำเร็จ

7_1_597622411b14f03

อย่างไรก็ตามนวัตกรรมนี้จะได้รับการตีพิมพ์ในจดหมายเหตุทางการแพทย์ประเทศไทยภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศ และอีก 2-3 เดือนต่อไปจะได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ ในอนาคตเราจะตั้งเป็นศูนย์สเต็บ (STE-P ย่อมาจาก Stem Cell Research and Treatment Excellence, Police Gen, Hospital) คือการผลิตเซลล์ต้นกำเนิดโดยตัวมนุษย์เองให้มีราคาถูกลง และเหมาะกับคนไทยทุกคน ฉะนั้นใครที่ไม่ได้เก็บสเต็มเซลล์มาก่อนก็จะมีเซลล์ใช้ ซึ่งในปีหน้าจะเสนอแพทยสภาเป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานของประเทศ ขณะนี้ตัวโครงการยังสามารถรับผู้ป่วยได้อีกประมาณ 20 คน หากอยากเข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ มีอาการข้อเสื่อมหรือบาดเจ็บกระดูกอ่อนในระยะต้น อายุน้อยกว่า 60 ปี มุมกระดูกโก่งผิดรูปน้อยกว่า 3 องศา กินยารักษาแต่อาการไม่ดีขึ้นและมีอาการปวด

ในประเทศไทยมีศูนย์สเต็มเซลล์หลายแห่ง แต่ว่าศูนย์ที่ใช้สเต็มเซลล์เพื่อการรักษากระดูกอ่อนแห่งแรกของประเทศและได้รับการอนุมัติโดยแพทยสภา คือที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้ และการใช้สเต็มเซลล์ที่ดีที่สุด คือสเต็มเซลล์ของตัวเอง เพราะไม่ทำให้แพ้ เนื่องจากมีลักษณะพิเศษเฉพาะของตัวเอง แต่ถ้านำของคนอื่นมาใช้ต้องใช้ยากดภูมิเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับร่างกาย ในอนาคตที่จะทำต่อไป คือโครงการทำวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดและการพิมพ์ที่กระดูกข้อตะโพก สาเหตุเกิดจากการที่ผู้ป่วยดื่มเหล้ามาก ๆ แล้วข้อตะโพกเสีย แต่ไม่ค่อยมีการรักษาเนื่องจากข้อตะโพกอยู่ลึกเข้าไปด้านในทำให้ผู้ป่วยทนทุกข์ทรมาน

แต่ขณะนี้ที่ทำข้อเข่าเพียงอย่างเดียว เพราะต้องดูอย่างละเอียดและศึกษาจนแน่ใจ ที่สำคัญการวิจัยของเราผ่านกระบวน การทดลองในสัตว์มาแล้ว แตกต่างจากหลาย ๆ แห่งในบ้านเรามักมีการใช้สเต็มเซลล์ที่ผิดกฎหมายไม่มีการทดลองในสัตว์ แต่ใช้กับมนุษย์เลยหรือส่งไปเพาะข้างนอกและควบคุมไม่ได้ เมื่อควบคุมไม่ได้จะมีผล คือเมื่อมันทำให้เซลล์โตก็จะทำให้เส้นเลือดโตไปด้วย เมื่อโตมาก ๆ ก็เป็นเนื้องอกของเส้นเลือด ฉะนั้นจึงยืนยันได้ว่าเทคโนโลยีที่เราทำเป็นเทคโนโลยีของธรรมชาติ รักษาแล้วกลับมาเดินได้อีกครั้งตามธรรมชาติโดยเก็บของเดิมไว้

นวัตกรรมของสเต็มเซลล์จากเลือดเพื่อการปลูกถ่ายกระดูกอ่อนผ่านกล้องวีดิทัศน์นี้จึงถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม เพื่อไม่ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคและกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีดังเดิม.

ทีมวาไรตี้

ที่มา: เดลินิวส์ 6 พฤษภาคม 2555