ตอนที่ 89 มากคุณค่าจากเมล็ดทานตะวัน

ตอนที่ 89 มากคุณค่า จาก“เมล็ดทานตะวัน”

ช่วงนี้ดอกทานตะวันกำลังบานไสวอยู่ทั่วท้องทุ่งแถวๆ จังหวัดลพบุรี สระบุรี “108 เคล็ดกิน”
ก็ได้ไปเที่ยวทุ่งทานตะวันกับเขามาเหมือนกัน
แล้วก็ได้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “
เมล็ดทานตะวัน” ผลิตภัณฑ์จากดอกทานตะวันนั่นเอง

เมล็ดทานตะวันเม็ดเล็กๆ นี้ก็มีสารอาหารมากมายไม่ใช่เล่นเลยนะ มีทั้งโปรตีน ธาตุเหล็ก
แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินอี
วิตามินดี วิตามินเค และยังมีวิตามินอีสูงกว่าน้ำมันเมล็ดข้าวโพด
และเมล็ดถั่วเหลืองกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว
ผู้ที่กินมังสวิรัติจะกินเมล็ดทานตะวันเป็นส่วนหนึ่งของอาหารหลักเพื่อช่วยเพิ่มโปรตีน
นอกจากนั้นในเมล็ดทานตะวันยังมีกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว (Linoleic Acid)
ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาใช้เองได้
จึงต้องกินเข้าไปเท่านั้น

สารอาหารต่างๆ ในเมล็ดทานตะวันนี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
หากกินเป็นประจำจะช่วยบำรุงสายตา
ป้องกันการเกิดต้อกระจกในตา ช่วยลดคอเลสเตอรอลหรือไขมันในเส้นเลือด

ป้องกันการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด
รวมทั้งยังช่วยชะลอความแก่และบำรุงผิวพรรณได้ด้วย

Sun, 01/08/2536 – 00:00 — File Name: 172-012-01 เล่ม: 172 เดือน-ปี: 08/1993
ผู้ถาม : วรรณี / เชียงใหม่
คุณแม่ดิฉันซื้อเมล็ดทานตะวันที่กะเทาะเปลือกแล้วมากินทุกวัน เพราะเห็นว่าช่วยบำรุงสายตา
ไม่ทราบว่าจะมีโทษต่อร่างกายบ้างหรือไม่
ดิฉันเป็นผู้หญิงที่สนใจเรื่อง “ประโยชน์และโทษของเมล็ดทานตะวัน”
เพราะคุณแม่ของดิฉันซื้อเมล็ดทานตะวันที่กะเทาะเปลือกแล้ว
(มีขายเป็นซองๆ ละ 25 บาท) มากินทุกวันๆ ละ 3 ครั้งๆ ละ 1 ช้อนโต๊ะ
หลังอาหาร เพราะเห็นว่าเมล็ดทานตะวันช่วยบำรุงสายตา
ดิฉันเป็นห่วงคุณแม่ กินอย่างนี้ทุกวันจะมีประโยชน์จริงหรือไม่
มากน้อยเพียงใด และจะมีโทษต่อร่างกายบ้างหรือไม่

ผู้ตอบ : พ.ญ.สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต
เมล็ดทานตะวันมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส
อีกทั้งยังมีวิตามินต่างๆ ได้แก่
วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินบี 2 และวิตามินอี
โดยเฉพาะวิตามินอีมีสูงกว่าพืชอื่นๆ วิตามินอีมีความสำคัญต่อสุขภาพต่างๆ ได้แก่
1. รักษาผิวหนังให้แลดูสดใส เยาว์วัย
2. ทำให้ระบบสืบพันธุ์ปกติ
3. ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด
เนื่องจากในเมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่สูง
กรดนี้จะช่วยลดไขมันในหลอดเลือด
อีกทั้งทำให้เม็ดเลือดแดงสมบูรณ์ คงทน ไม่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อน
อันเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดอุดตัน
4. บำรุงสายตา
เนื่องจากวิตามินอีเป็นสารที่ช่วยป้องกัน
มิให้ออกซิเจนเข้าทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัวภายในแก้วตา
จึงน่าจะช่วยป้องกันต้อกระจกได้
ยังมีวิตามินอีกหลายตัวที่เป็นสารชนิดเดียวกันนี้ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี
วิตามินดี วิตามินเค
ก็คงใช้ได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ในคนทั่วๆไปที่บริโภคอาหารครบ ก็คงมีวิตามินอีที่เพียงพอแล้ว
แต่พอสูงอายุก็ยังพบต้อกระจกได้อยู่
อีกทั้งยังไม่มีรายงานการวิจัยอันใดที่พิสูจน์ออกมาว่า
วิตามินอีป้องกันต้อกระจกได้แน่ๆ
เพราะกระบวนการเกิดต้อกระจกพบได้จากหลายสาเหตุ
โดยสรุปน่าจะกล่าวว่า
วิตามินอีอาจมีส่วนช่วยป้องกันต้อกระจกด้วยดังหลักการข้างต้น
หมอคิดว่าการที่คุณแม่คุณกินเมล็ดทานตะวันทุกวันคงจะมีประโยชน์ในแง่โภชนาการเหมือนอาหารอื่นๆ
ที่มีโปรตีน ธาตุต่างๆ
ตลอดจนวิตามินที่กล่าวข้างต้น ส่วนเรื่องโทษต่อร่างกายนั้นถ้ากินเข้าไปมากๆ

ยังไม่มีรายงานอันใดบอกไว้
ปกติร่างกายต้องการวิตามินอีเพียง 15-30 IU ต่อวันก็จริง มีรายงานว่าคนกินวิตามินอีในขนาด
600-1,200 IU ต่อวันติดต่อกันหลายปี
ก็ไม่มีโทษอะไร (อัตรานี้เท่ากับเมล็ดทานตะวันมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อวัน)
คุณคงสบายใจได้ เพราะการกินเช่นนั้นไม่ให้โทษ
มีประโยชน์ในแง่โภชนาการ ทั้งยังอาจจะช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกก็เป็นได้ (หมายเหตุ
วิตามินอีในรูปของ

อัลฟา โทโคฟีรอล (Alpha Tocopherol) ซึ่งเป็นชนิดที่ร่างกายต้องการ 1.49 IU = 1 มก.)
http://www.doctor.or.th/node/3704

ทำ oil pulling ทุกเช้าด้วยน้ำมันทานตะวัน
และไปซื้อเมล็ดทุ่งทานตะวันเหมือนกัน